รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะร่วมปลูกป่าชายเลน กิจกรรม “เสมา จิตอาสา รักษ์ป่าชายเลน” ที่สมุทรสงคราม
วันนี้ (12 มี.ค.64) ณ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลน ตำบลคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานนำมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ปลูกป่าชายเลนในกิจกรรม “เสมา จิตอาสา รักษ์ป่าชายเลน” โดยมีนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นำผู้บริหารหัวหน้าส่วนราชการ และนักเรียนโรงเรียนวัดคลองโคน ให้การต้อนรับและร่วมปลูกป่าต้นโกงกางใบใหญ่ พร้อมสรุปผลการดำเนินงานการปลูกป่าชายเลนซึ่งเป็นนโยบายของจังหวัดสุมทรสงครามที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนตลอดทั้งปีเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยในปี 2563 ที่ผ่านมาได้มีการปลูกป่าชายเลนถึง 64 ครั้ง จำนวน 47 ไร่ จำนวนคนร่วมปลูก 5,667 คน และในปี 2564 นี้ จะมีดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสืบสานพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเสด็จปลูกป่าที่สมุทรสงคราม จำนวน 5 ครั้ง ระหว่างปี 2540 -2547 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “ดิน น้ำ ป่า” คือ ชีวิตของคนไทยทุกด้าน ช่วยทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าและก้าวพ้นวิกฤตต่างๆ ซึ่งเป็นแนวทางตามแนวพระราชดาริในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ทรงสนพระทัยและให้ความสำคัญกับ ดิน น้ำ ป่า มาตลอด 70 ปี ที่พระองค์ทรงครองราชย์ พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชประสงค์สนองต่อพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน กระทรวงศึกษาธิการ เห็นความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และได้นำปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกำหนดเป็นวาระสำคัญ ที่จะต้องเร่งปฏิรูปการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และครอบคลุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และเพิ่มพูนความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม แก่วงการศึกษาพร้อมวางแผนการทำงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับทุกภาคส่วน จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการอนุรักษ์ป่าชายเลนไว้ โดยที่ป่าชายเลน ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญและให้ประโยชน์ทั้งในด้านป่าไม้ ประมง และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ป่าชายเลนได้ถูกทำลายลงด้วยกิจกรรมต่างๆ อยู่เป็นประจำ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องหาแนวทางในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าชายเลนให้ได้ผลเต็มที่ตลอดไป และในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศด้วย หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือ การจัดการทรัพยากรป่าชายเลนเพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ยั่งยืนต่อไปทั้งการรักษาพื้นที่ป่าชายเลนที่มีอยู่ให้คงไว้ การเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน โดยการปลูกป่า รวมถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าชายเลนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar